เครื่องวัดเสียง สามารถใช้งานกับสภาพแวดล้อมแบบไหนบ้าง ?
จากการแบ่งเสียงออกได้เป็น 4 ประเภท
- เสียงที่ดังสมํ่าเสมอ (Steady-state noise)
- เสียงที่เปลี่ยนแปลงระดับเสมอ (Fluctuating noise)
- เสียงกระทบ(Impulsive noise)
- เสียงที่ดังเป็นระยะ(Intermittent noise)
1.เสียงดังสมํ่าเสมอ (steady-state noise)
เป็นระดับเสียงที่มีความเข้มเสียงคงทีและมีความต่อเนื่อง โดยที่ระดับเสียงไม่เปลี่ยนแปลงเกินกว่า ± 5 dB ในเวลา 1 วินาที เช่น เสียงพัดลม เสียงแอร์ เสียงเครื่องทอผ้า เป็นต้น
2.เสียงที่เปลี่ยนแปลงระดับสมํ่าเสมอ (Fluctuating noise)
เป็นระดับเสียงที่ความเข้มไม่สมํ่าเสมอมีการเปลี่ยนแปลงของระดับเสียงนั้นเกินกว่า 5 dB ในเวลา1วินาที เช่น เสียงไซเรน วงเดือน เสียงเลื่อย เป็นต้น
3.เสียงกระทบ (Impact noise)
เป็นเสียงที่เกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 0.5 วินาที แล้วหายไป โดยที่ระดับเสียงจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างน้อย 40 dB เช่น เสียงปืน ระเบิด เสียงทุบโลหะ เสียงตอกเสาเข็ม เป็นต้น
4.เสียงที่ดังเป็นครั้งคราว (Intermittent noise)
เป็นเสียงที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ไม่แน่นอน และไม่ต่อเนื่อง เช่น เสียงเครื่องอัดลม เสียงการจราจร เสียงในโรงงานบางประเภท
มารตรฐานการสอบเทียบเครื่องวัดเสียง ?
เครื่องมือวัดเสียงแต่ละชนิดนั้นจะต้องมีมารตรฐานที่ต้องทำการสอบเทียบเพื่อได้เครื่องมือวัดที่มีความถูกต้องแม่นยำสำหรับการนำไปใช้งานประเภทต่างๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
- สอบเทียบมารตฐานเพื่อการนำไปใช้งานในห้องปฎิบัติการ เครื่องมือวัดมีความแม่นยำสูง
- สอบเทียบมารตฐานเพื่อให้เครื่องมือวัดมีความเที่ยงตรงในการวัดระดับความเข้มของเสียงรบกวน
- สอบเทียบสำหรับการใช้งานทั่วไป
- สอบเทียบสำหรับเป็นเครื่องมือที่ใช้งานในการสำรวจ